รู้ก่อนป้องกันได้! มะเร็งปากมดลูก โรคร้ายที่คร่าชีวิตผู้หญิงไทย

รู้ก่อนป้องกันได้! มะเร็งปากมดลูก โรคร้ายที่คร่าชีวิตผู้หญิงไทย
      มะเร็งปากมดลูก (Cervical Cancer) เป็นโรคร้ายที่คร่าชีวิตผู้หญิงไทยจำนวนมากในแต่ละปี และจัดเป็น 1 ใน 3 มะเร็งที่พบมากที่สุดในสตรี สาเหตุหลักเกิดจากการติดเชื้อไวรัส HPV (Human Papillomavirus) ซึ่งติดต่อได้ผ่านทางเพศสัมพันธ์ ถึงแม้มะเร็งปากมดลูกจะน่ากลัว แต่ข่าวดีคือ…โรคนี้ สามารถป้องกันได้ หากเรารู้วิธีดูแลตัวเองอย่างถูกต้องตั้งแต่เนิ่นๆ

ปัจจัยเสี่ยงที่ก่อมะเร็งปากมดลูก

• การมีคู่นอนหลายคน หรือการเปลี่ยนคู่นอนบ่อยๆ
• การมีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุน้อย
• การได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ชนิดอื่นๆ อย่างเช่น โรคติดเชื้อคลามีเดีย (chlamydia) โรคหนองในแท้ (gonorrhea) โรคซิฟิลิส (syphilis) และโรคติดเชื้อเอชไอวี/โรคเอดส์ (HIV/AIDS)
• ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันไม่ดีจะมีโอกาสเป็นมะเร็งปากมดลูกมากกว่าคนทั่วไปโดยเฉพาะหากระบบภูมิคุ้มกันต่ำ
• การสูบบุหรี่

สัญญาณเตือนมะเร็งปากมดลูก 

      มะเร็งปากมดลูก มักไม่แสดงอาการในระยะแรก หมั่นสังเกตอาการของตนเอง ดังนี้

• ตกขาวผิดปกติอย่างเห็นได้ชัด มีตกขาวมากกว่าปกติ หรือตกขาวมีเลือดปน
• เลือดออกจากช่องคลอดโดยไม่ทราบสาเหตุ เลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ เลือดออกหลังจากหมดประจำเดือน
• ปวดท้องน้อย ปวดบริเวณหัวหน่าว
• ประจำเดือนมาไม่ปกติ
• เจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์
• ปัสสาวะ/อุจจาระปนเลือด
• ปัสสาวะไม่ค่อยออก ปวดบวม
• ปวดหลัง ขาบวม ไตวาย (กรณีที่มะเร็งมีระยะลุกลามรุนแรง)
• น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย

5 วิธีง่ายๆ ที่ผู้หญิงทุกคนทำได้เพื่อป้องกันมะเร็งปากมดลูก

• ฉีดวัคซีน HPV ป้องกันเชื้อไวรัส HPV สาเหตุหลักของมะเร็งปากมดลูก
• ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเป็นประจำ เช่น Pap smear หรือ HPV DNA test เพื่อค้นหาความผิดปกติแต่เนิ่นๆ
• ป้องกันการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ โดยการใช้ถุงยางอนามัย ลดพฤติกรรมเสี่ยง และมีคู่ครองถาวร
• เลิกสูบบุหรี่ เพราะสารพิษจากบุหรี่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดเซลล์มะเร็งในปากมดลูก
• ดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง พักผ่อนให้เพียงพอ กินอาหารที่มีประโยชน์ และออกกำลังกายสม่ำเสมอ

      การฉีดวัคซีน ป้องกันเชื้อเอชพีวี (HPV) เป็นหนึ่งในวิธีการป้องกันที่ดีที่สุด ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของโรคมะเร็งปากมดลูก วัคซีนนี้จะมีประสิทธิภาพสูงสุดเมื่อฉีดให้กับเด็กผู้หญิง หรือสตรีที่ยังไม่มีเพศสัมพันธ์ และหากเป็นสตรีที่มีเพศสัมพันธ์แล้ว วัคซีนจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพกับผู้ที่ยังไม่มีการติดเชื้อ HPV หรือไม่มีเซลล์ผิดปกติ และตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกทุก 2-3 ปี สามารถตรวจคัดกรองได้โดย ตรวจแปปสเมียร์ (Pap Smear) และการตรวจหาเชื้อ HPV

ติดตาม โซเชียลเน็ตเวิร์ก ของเรา