ใช้ข้อมือหนัก เช็กด่วน! อาการเสี่ยงโรคพังผืดข้อมือ
บทความสุขภาพ
ใช้ข้อมือหนัก เช็กด่วน! อาการเสี่ยงโรคพังผืดข้อมือ
ในยุคที่ชีวิตประจำวันผูกติดอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟน โรคที่เกี่ยวกับกระดูกและกล้ามเนื้อจึงกลายเป็นปัญหาใกล้ตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โรคพังผืดกดทับเส้นประสาทบริเวณข้อมือ หรือ Carpal Tunnel Syndrome (CTS) ที่กำลังคุกคามกลุ่มคนวัยทำงานที่ต้องใช้ข้อมือซ้ำ ๆ ทุกวัน นี่ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยที่ควรปล่อยผ่าน เพราะหากอาการรุนแรง อาจนำไปสู่การสูญเสียการใช้งานมืออย่างถาวรได้
อาการ "มือชา" แบบไหน คือสัญญาณเตือน?
โรคพังผืดกดทับเส้นประสาทข้อมือ เกิดจากการที่เส้นประสาทมีเดียน (Median Nerve) ซึ่งวิ่งผ่านอุโมงค์ข้อมือ ถูกพังผืดที่หนาตัวขึ้นบีบรัด ทำให้เกิดอาการผิดปกติในการรับความรู้สึก อาการที่บ่งชี้ว่าคุณกำลังตกอยู่ในความเสี่ยงมีดังนี้ :
- ชาเฉพาะนิ้ว (ที่ต้องระวัง) : อาการชาหรือรู้สึกเหมือนมีเข็มทิ่มจะเกิดขึ้นที่ นิ้วหัวแม่มือ นิ้วชี้ นิ้วกลาง และครึ่งหนึ่งของนิ้วนาง เท่านั้น หากนิ้วก้อยไม่ชา ถือเป็นสัญญาณสำคัญของโรคนี้
- อาการรุนแรงเวลากลางคืน : ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักมีอาการชาและปวดแสบร้อนที่มือมากขึ้นในเวลากลางคืน จนต้องสะดุ้งตื่นมา "สะบัดมือ" เพื่อบรรเทาอาการ
- กำลังมือลดลง : เริ่มรู้สึกว่ามืออ่อนแรงลงอย่างเห็นได้ชัด หยิบจับสิ่งของไม่ถนัด ทำของหลุดจากมือบ่อยๆ หรือไม่สามารถกำมือได้แน่นเหมือนเดิม
- ปวดร้าว : อาการปวดอาจไม่ได้จำกัดอยู่แค่ข้อมือ แต่อาจร้าวขึ้นไปตามปลายแขน หรือขึ้นไปถึงหัวไหล่ได้ด้วย
หากมีอาการเหล่านี้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง หรือเป็นมานาน 2-3 สัปดาห์โดยไม่ดีขึ้นหลังพักการใช้งาน ควรเข้าพบแพทย์เฉพาะทางทันที
ใครคือ "กลุ่มเสี่ยง" ที่ต้องระวังเป็นพิเศษ?
ปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นให้เกิดโรคนี้คือ การใช้ข้อมือในท่าทางซ้ำ ๆ หรือผิดธรรมชาติเป็นเวลานาน รวมถึงภาวะสุขภาพบางอย่าง :
- ชาวออฟฟิศและเกมเมอร์ : ผู้ที่ใช้เมาส์หรือพิมพ์งานติดต่อกันนานหลายชั่วโมง โดยวางข้อมือในท่าทางกระดกขึ้นหรือลง
- กลุ่มอาชีพที่ใช้มือซ้ำๆ : แม่บ้าน (การบิดผ้า, ทำกับข้าว), ช่างฝีมือ, ช่างตัดเย็บ, หรือผู้ที่ต้องทำงานกับเครื่องมือที่มีแรงสั่นสะเทือน
- ปัจจัยด้านสุขภาพ : ผู้ป่วยเบาหวาน, โรครูมาตอยด์, ไฮโปไทรอยด์ หรือหญิงตั้งครรภ์ที่ร่างกายมีภาวะบวมน้ำ
- พักเป็นระยะ : ใช้กฎ 20-20-20 ในการพักสายตา และควรพักข้อมือเป็นระยะเมื่อต้องทำงานซ้ำ ๆ นานๆ
- ยืดเหยียด : หมั่นบริหารและยืดเหยียดข้อมือและนิ้วมือระหว่างวัน
- อุปกรณ์ช่วย : ใช้อุปกรณ์เสริมเพื่อจัดระเบียบข้อมือให้อยู่ในท่าที่เป็นกลาง (Neutral Position) เช่น ที่รองข้อมือสำหรับแป้นพิมพ์หรือเมาส์
- เฝ้าระวังอาการ : หากมีอาการชาเรื้อรัง ไม่ควรซื้อยามาทานเอง แต่ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาที่ตรงจุด ไม่ว่าจะเป็นการใช้ยา, การใส่เฝือกดามข้อมือ, หรือการทำกายภาพบำบัด

ติดตาม โซเชียลเน็ตเวิร์ก ของเรา
![]() | ![]() | ![]() | ![]() | ![]() | ![]() |